Wednesday, February 8, 2012

การจัดเรียงข้อมูลด้วย Disk Defragmentor

ข้อมูลที่กระจายกันอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในฮาร์ดดิสก์จะทำให้พีซีของคุณมีประสิทธิภาพที่ลดลง ถ้าหากข้อมูลของไฟล์ถูกจัดเก็บเอาไว้ในที่ต่าง ๆ แล้วคุณต้องการเปิดไฟล์ คอมพิวเตอร์ต้องค้นหาตามจุดต่าง ๆ เพื่อนำเอาชิ้นส่วนของไฟล์มารวมกัน ซึ่งทำให้เวลาในการตอบสนองนานขึ้นกว่าเดิมมาก จึงได้มีการจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดิสก์เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้เร็วขึ้น ในฮาร์ดดิสก์ของเราประกอบด้วยไฟล์แยกกันอยู่เป็นส่วน ๆ ทำให้ต้องใช้เวลาในการค้นหามากขึ้น วิธีหนึ่งที่ช่วยลดระยะเวลาในการค้นหา ก็คือการทำ Disk Defragmenter ซึ่งจะช่วยรวบรวมไฟล์ และโฟลเดอร์ ที่แยกส่วนออกจากกัน มารวมกันอยู่บนพื้นที่ดิสก์เดียวกัน ทำให้ไฟล์ถูกจัดเก็บอย่างลงตัวแบบ end-to-endไม่ถูกแยกออกเป็นส่วน และช่วยให้การเข้าถึงไฟล์เหล่านี้เร็วขึ้น
ปกติการเรียกใช้ Disk Defragmenter อาจจะทำเป็นช่วงเวลา เช่น เดือนละครั้ง หรือสองสัปดาห์ครั้ง แต่ยังมีข้อพิจารณาอีก 3 ข้อ ว่าถ้าสภาพแวดล้อมของเครื่องคอมพิวเตอร์คุณเป็นดังต่อไปนี้ ให้คุณทำ Disk Defragmenter ด้วย คือ
- มีการเพิ่มไฟล์เข้าไปในฮาร์ดดิสก์เป็นจำนวนมาก
- พื้นที่ของดิสก์คุณ เหลือไม่ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ทั้งหมด
- คุณมีการติดตั้งโปรแกรมใหม่ หรือติดตั้งวินโดวส์เวอร์ชันใหม่

เมื่อใดที่ควรสั่งงาน Disk Defragmenter
นอกเหนือจากการสั่งงาน Disk Defragmenter ตามช่วงเวลาที่กำหนดแล้ว (น่าจะทำทุกเดือน) เหตุการณ์บางอย่างอาจบังคับให้คุณสั่งงานยูทิลิตี้ตัวนี้นอกช่วงเวลาที่กำหนดเอาไว้ในแต่ละเดือนได้เช่นกัน คุณควรสั่งงาน Disk Defragmenter ภายใต้สภาพเหตุการณ์ดังต่อไปนี้

• เมื่อคุณใส่ไฟล์จำนวนมากลงไปในฮาร์ดดิสก์
• คุณทำให้พีซีมีส่วนที่ว่างเกิดขึ้นเกือบร้อยละ 15
• คุณติดตั้งโปรแกรมใหม่หรือ Windows เวอร์ชันใหม่


วิธีการใช้ Disk Defragmenter
1. คลิก Start ชี้เมาส์ไปที่ All Programs ตามด้วย Accessories แล้วชี้ไปยัง System Tools จากนั้นคลิกที่ Disk Defragmenter คลิกที่ Analyze เพื่อเริ่มต้นการจัดระเบียบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์


2. ในกรอบถามตอบของ Disk Defragmenter คลิกที่ไดร์ฟที่คุณต้องการจัดระเบียบข้อมูล จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Analyze


หลังจากทำการวิเคราะห์ฮาร์ดดิสก์เสร็จแล้ว จะมีกรอบข้อความปรากฏขึ้นมาเพื่อบอกให้คุณทราบว่า คุณควรจัดระเบียบข้อมูลในไดร์ฟที่ทำการวิเคราะห์หรือไม่

คำแนะนำ: คุณควรทำการวิเคราะห์โวลูมก่อนที่จะทำการจัดระเบียบข้อมูล เพื่อที่คุณจะได้ทราบว่าขั้นตอนการจัดระเบียบข้อมูลจะต้องใช้เวลาคร่าวๆมากน้อยเพียงใด


3. ถ้าหากต้องการจัดระเบียบข้อมูลในไดร์ฟที่เลือกเอาไว้ตั้งแต่หนึ่งไดร์ฟขึ้นไป ให้คลิกที่ปุ่ม Defragment หลังจากขั้นตอนการจัดระเบียบข้อมูลเสร็จแล้ว Disk Defragmenter จะแสดงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบ

4. ถ้าหากต้องการทราบข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับดิสก์ไดร์ฟหรือพาร์ทิชันที่ถูกจัดระเบียบข้อมูลให้คลิกที่ View Report


5. ถ้าต้องการปิดกรอบ View Report คลิก Close
6. ถ้าต้องการปิดยูทิลิตี้ Disk Defragmenter คลิกที่ปุ่ม Close บริเวณไตเติลบาร์ของวินโดวส์ช่องนี้
เนื่องจากในขณะที่คุณใช้ฮาร์ดไดร์ฟอยู่ มันอาจจะเกิดเซกเตอร์เสียขึ้นมาได้ เซกเตอร์เสียจะทำให้ฮาร์ดไดร์ฟมีประสิทธิภาพลดลง และในบางครั้งทำให้การบันทึกข้อมูล (อาทิเช่นการเซฟไฟล์) ยุ่งยากหรือไม่อาจทำได้ ยูทิลิตี้ Error Checking จะทำการค้นหาเซกเตอร์เสียที่อยู่ในฮาร์ดไดร์ฟ รวมทั้งค้นหาว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นกับระบบไฟล์เพื่อดูว่าไฟล์หรือโฟลเดอร์บางจุดอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่


http://www.it.coj.go.th/defragment.html

No comments:

Powered By Blogger

About Me