Wednesday, February 8, 2012

การสำรองข้อมูล

หลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาที่ข้อมูลที่สูญหาย ลบไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งถ้าเราได้บันทึกเก็บไว้หลายที่ก็ดีไป สามารถนำไฟล์มาใช้ได้ แต่หากไม่ได้บันทึกไว้ที่ไหนเลยอาจต้องสร้างใหม่หรือพิมพ์ใหม่ซึ่งเสียเวลาพอสมควร แต่สำหรับระบบขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลจำนวนมาก หรือเป็นข้อมูลของลูกค้าที่เราให้บริการซึ่งเราไม่ได้เป็นผู้สร้างหรือแก้ไขเอง หากเกิดการสูญหายของข้อมูลขึ้น ผลกระทบที่เกิดย่อมก่อให้เกิดความเสียหายมาก ดังนั้นเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการสูญหายของข้อมูล คือ การสำรองข้อมูล (Backup)
โดยการสำรองข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลมีความครบถ้วนมากที่สุดนั้นมักจะบันทึกเป็น 3 ระดับคือ
Full System Backup
Full Data Backup
Incremental Backup
สำหรับการสำรองข้อมูลสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก ๆ ดังนี้

1. Offline Backup : เป็นวิธีเบื้องต้นที่หลาย ๆ ท่านที่เคยทำการสำรองข้อมูลคงคุ้นเคย นั่นคือการหยุดให้บริการต่าง ๆ บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด หรือการ Stop Service ต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั้งหมดก่อนทำการสำรองข้อมูล (Backup) ซึ่งวิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับองค์กรที่จำเป็นต้องทำการให้บริการผู้ใช้งานตลอด 24 ชม. ทั้ง 7 วัน

2. Online Backup : ความไม่สะดวกเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นต้องทำการสำรองข้อมูล แต่ไม่สามารถหยุดการให้บริการได้ จึงได้มีการพัฒนาวิธีการทำการสำรองข้อมูลขึ้นมาอีกวีธีหนึ่งคือ สามารถทำการสำรองข้อมูลไปพร้อม ๆ กับการให้บริการต่าง ๆ แก่ผู้ใช้งานได้ ซึ่งเรียกวิธีนี้ว่า Online Backup หลายผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดมีการทำงานลักษณะนี้
ส่วนกระบวนการในการสำรองข้อมูล สามารถแบ่งออกตามลักษณะของทิศทางการไหลของข้อมูลได้ 2 ประเภท

1. LAN Backup : เป็นกระบวนการแบ็คอัพที่มีทิศทางการไหลของข้อมูลที่ต้องการแบ็คอัพไปตามเน็ตเวิร์ก เครื่องที่เป็น Backup Server คือเครื่องที่มี Tape Drive ต่ออยู่ ข้อมูลจาก Server อื่น ๆ จะถูกดึงออกมาผ่านทางเน็ตเวิร์กส่งไปยัง Backup Server

2. LAN Free Backup : กระบวนการแบ็คอัพสำหรับองค์กรที่ใช้งานตู้ Storage หรือที่เรียกกันว่า SAN ( Storage Area Network ) ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ทำการเชื่อมต่อเพื่อเข้ามาใช้เนื้อที่ใน SAN ซึ่งข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต้องการทำการ Backup
เมื่อกล่าววถึงการสำรองข้อมูล สำหรับ Windows XP ระบบปฏิบัติการยอดนิยมก็มีคุณสมบัติสำหรับการ Backup ที่เตรียมไว้ให้แล้ว หากจะถามว่าการแบ็กอัพข้อมูลและไฟล์ระบบมีประโยชน์อย่างไรบ้าง? อย่างแรกเลยก็คือ คุณสามารถเรียกข้อมูลกลับคืนมาได้ทุกเวลาที่ต้องการ และอย่างที่สองนั้นหากวินโดวส์เกิดล่มขึ้นมาจริง ๆ คุณก็มีวิธีรับมือกับมันด้วยตัวเอง
ที่มา http://catadmin.cattelecom.com/km/blog/kesmanasm/2007/11/12/backup/
http://www.businessshot.com/?mo=3&art=156746
http://www.sanambin.com

No comments:

Powered By Blogger

About Me